eSIM คืออะไร

คำว่า "eSIM" ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณอาจเคยเห็นซิมชนิดนี้ ในขณะที่กำลังค้นหาโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่หรือในโฆษณาจากบริษัทโทรคมนาคม  

ซิมการ์ด (ชื่อเต็มเรียกว่า "โมดูลระบุผู้ใช้บริการ") ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของโทรศัพท์และอุปกรณ์ เคลื่อนที่อื่น ๆ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1991 บัตรพีวีซีขนาดเล็กเหล่านี้ทำให้อุปกรณ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถือ ส่งข้อความ โทรออกและรับสายได้ 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้ให้บริการจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มองหา eSIM เข้ามาเพิ่มหรือ แทนที่เทคโนโลยีซิมการ์ดแบบเดิม ในสังคมที่มีความเป็นโลกาภิวัตน์มากขึ้น ความจำเป็นในการเชื่อมต่อ กับหลายเครือข่ายหรือสลับแผนบริการโรมมิงต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย กลายมาเป็นเรื่องสำคัญ อย่างรวดเร็วสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมาก  

eSIM ได้รับการพัฒนาครั้งแรกในปี 2012 ซึ่งเข้ามาพลิกโฉมข้อจำกัดของเทคโนโลยีซิมการ์ดที่มีอายุ 30 ปีในปัจจุบัน โดยพื้นฐานแล้ว ซิมเหล่านี้คือไมโครชิปที่สามารถจัดเก็บโปรไฟล์ซิมการ์ดที่ แตกต่างกันหลายโปรไฟล์ในอุปกรณ์เครื่องเดียว โดยไม่จำเป็นต้องสลับการ์ดเข้าและออก เมื่อต้องการใช้บริการหรือผู้ให้บริการเครือข่ายที่แตกต่างกัน ซิมเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเดินทาง ระหว่างประเทศหรือสลับซิมระหว่างหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวและที่ทำงาน เป็นต้น 

แล้ว eSIMS คืออะไรกันแน่ และคุณควรจะใช้ซิมประเภทนี้หรือไม่  

eSIMS เหมาะสำหรับใคร

eSIM ได้รับการพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี 2012 โดยในตอนแรกมีการนำมาใช้เป็นวิธีการสื่อสารระหว่างวัตถุ "อัจฉริยะ" ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น นาฬิกา โทรทัศน์ และเครื่องดูดฝุ่นในสาขาอินเทอร์เน็ตของ สรรพสิ่ง (IoT) เป็นที่น่าสังเกตว่าโอกาสในการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาร์ทโฟนนั้นเป็นการพัฒนาที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว ในปี 2023 ผู้ผลิตโทรศัพท์รายใหญ่อย่าง Apple, Nokia และ Samsung ได้รวมฮาร์ดแวร์ eSIM ไว้เป็นมาตรฐานในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่หลายรุ่น iPhone ที่รองรับ eSIM เครื่องแรกเปิดตัวในปี 2018 และในปีนี้ Apple ประกาศว่า iPhone 14 จะรองรับเวอร์ชัน eSIM เพียงเท่านั้น เมื่อสาธารณชนรับรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและศักยภาพของเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น การใช้งานและ ประโยชน์ของ eSIM ที่เป็นไปได้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

กำลังวางแผนการเดินทางอยู่ใช่หรือไม่ เห็นได้ชัดว่านักเดินทางทั่วไป นักท่องเที่ยว และผู้ที่อยู่กับครอบครัวในต่างประเทศล้วนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างชัดเจน นั่นก็คือกระบวนการสลับไปมาระหว่างซิมจริงหลายซิมที่มีความซับซ้อนและการรักษาความปลอดภัยถูกแทนที่ด้วยกระบวนการทางดิจิทัลทั้งหมด ด้วย eSIM จึงทำให้การเพิ่มหรือลบแผนการโรมมิง หรือหมายเลขใหม่ทำได้ง่ายเหมือนกับการสแกนคิวอาร์โค้ด iPhone รุ่นล่าสุดยังมีความสามารถ ในการจัดเก็บโปรไฟล์ eSIM ที่แตกต่างกันได้ถึง 8 โปรไฟล์พร้อมกัน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่สำคัญถึง ความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่มีต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ 

แน่นอนว่า ไม่ใช่เฉพาะลูกค้ารายบุคคลเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์จาก eSIM องค์กรและบริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ต่างหันมาใช้ eSIM แบบขายส่ง เหตุใดจึงต้องจัดเตรียม โทรศัพท์ที่ทำงานให้กับพนักงานของคุณ ในเมื่อคุณสามารถดาวน์โหลดหมายเลขที่ทำงานใหม่ลงใน eSIM ที่มีอยู่ของพวกเขาได้ ฟังก์ชันการทำงานแบบทันทีนี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตั้งโปรแกรมและ ตั้งโปรแกรมอุปกรณ์หลายเครื่องใหม่ได้ในคราวเดียว ซึ่งเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและ เวลาทั้งหมดได้อีกด้วย  

eSIM และซิมแบบเดิม

ไม่ใช่แค่เพียงฟังก์ชันการทำงานเท่านั้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาด แม้ว่าในตอนนี้ซิมแบบเดิม จะมีขนาดเล็กกว่าซิมในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ที่มีขนาดเท่าบัตรเครดิตอย่างมาก แต่ซิมการ์ดพลาสติก ยังคงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โครงสร้างที่ค่อนข้างเป็นพีวีซี ซิลิคอน และทอง ทำให้ไม่เหมาะสม สำหรับการรีไซเคิลที่บ้าน ในขณะที่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะยังคงเพิ่มขึ้น ให้คุณลองนึงถึงผู้ถือบัตร พลาสติกที่มีขนาดใหญ่กว่าซิมการ์ดในปัจจุบัน